Close

ทำ IF แต่น้ำหนักไม่ลด

สำหรับการทำ IF หรือ Intermittent Fasting นั้น เท่าที่ลองสอบถามคนรอบตัว จะเน้นไปเพื่อผลลัพธ์ ในการลดน้ำหนักซะเป็นส่วนใหญ่ ยืนยันจากเสียงในฟิล์มว่า “ถ้าพี่ไปถามชะนีอย่างหนู ส่วนใหญ่ก็คือทำ IF เพราะต้องการลดน้ำหนักอะแล่ะ” ซึ่งหลายคนเมื่อได้ลองทำ IF ไปซักพัก ก็จะเริ่มติดกับปัญหาเดียวกันก็คือ ทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆแต่ทำไม น้ำหนักไม่ลดลงแล้วล่ะ? ก็เลยต้องไปนั่งคุยเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุของการที่ ทำ IF แล้วน้ำหนักไม่ลด 

“ถ้าพี่ไปถามชะนีอย่างหนู ส่วนใหญ่ก็คือทำ IF เพราะต้องการลดน้ำหนักอะแล่ะ” 

ก่อนไปไกล ต้องเข้าใจก่อนว่า การทำ IF (Intermittent = เป็นระยะๆ และ  Fasting = การอดอาหาร) แปลรวมๆ ก็คือ  การอดอาหารเป็นระยะๆ ซึ่งเน้นย้ำไปที่การอดอาหารเป็นช่วงเวลา แต่ไม่ได้บังคับว่า ในช่วงที่ไม่ได้อด เราควรกินอะไรบ้าง และนั่นก็มีคนกินในช่วงที่กินได้หลากหลายเลย เช่น

แบบแรก ก็กินเหมือนใช้ชีวิตในวันปกติวันหนึ่ง ซึ่งจำนวนแคลอรี่ ก็ได้พอๆกันการช่วงที่ไม่ได้ทำ IF ซึ่งถ้าหลายคนเป็นแบบนี้ล่ะก็ไม่ต้องห่วงครับน้ำหนักตัวน่าจะไม่ได้แตกต่างจากช่วงก่อนทำ IF ซักเท่าไหร่ หรือแทบจะน้ำหนักเท่าเดิมเลย เพราะว่า ร่างกาย ยังคง ใช้พลังงานในแต่ละวันเท่าเดิม และได้รับพลังงานในแต่ละวันเท่าเดิมนั่นเอง แต่จะได้ในเรื่องของสุขภาพที่ดีขึ้นแน่นอน

แบบที่สอง เป็นแบบที่นิยมก็คือ ลดปริมาณแคลอรี่ที่กินเข้าไป โดยเน้นอาหารประเภทไขมันและโปรตีน และลดการนำเข้าอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ซึ่งถ้ายิ่งคำนวณออกมาจำนวนแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันน้อยกว่า ช่วงก่อนทำ IF ก็จะมีโอกาสที่น้ำหนักตัวจะลดลงได้ และยังลดได้ไวมากขึ้นอีกถ้าเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้ทำ IF 

อ่านมาถึงตรงนี้ก็จะเกิดคำถามใหม่ว่า ชั้นก็เป็นแบบที่ 2 เนี่ยแล่ะ ก็คำนวณแล้วนะว่า ในแต่ละวันได้รับแคลอรี่ น้อยลง แถมก็ทำ IF ด้วย ทำไมยังมีน้ำหนักไม่ลดเลย จริงๆ มันมีปัจจัยหลายอย่างมากเลยครับ แต่จากที่ได้พูดคุยกับน้องๆ ที่ทำ IF ด้วยกัน และดึงข้อมูลมาเล่าให้ฟังก็มักจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ก็คือว่า

ในการกินอาหารในแต่ละวัน เราไปนับแคลอรี่ ที่จะได้รับเป็นหลัก เน้นจำนวนแคลอรี่ ให้ไม่เกินเป้าหมายในแต่ละวัน โดยลืมไปดูในเรื่องของสารอาหารที่เราได้จากอาหารไปเลย ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่สำคัญมากด้วย เพราะนอกจากที่พอเราลดน้ำหนักไปถึงจุดๆนึงแล้ว มันไม่ยอมลงต่อ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม กินให้น้อยลงไปอีก ก็ยังไม่ลด นั่นเป็นเพราะว่า ถึงแม้ เราจะได้รับปริมาณแคลอรี่ไม่ได้ต่ำจนเกินไปจากที่คำนวณมาก็ตาม แต่สารอาหารบางอย่างเราได้รับน้อยลงโดยเฉพาะโปรตีน ที่ในแต่ละวันเราควรได้รับ 0.8 – 1 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ทำให้ร่างกายของเราเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือเรากำลังจะอดตาย หรือช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง หาอาหารมากินได้ลำบาก ไม่ว่าจะแบบไหน ร่างกายของเราก็รู้สึกไม่ปลอดภัย จึงเปลี่ยนแปลงกลไกการเผาผลาญพลังงานให้อยู่ใน เซฟโหมด แบบเดียวกับช่วงปลายเดือนของเรานั่นแล่ะ ก็คือ ปกติ จะใช้เงินวันละ 200 พอช่วงปลายเดือนเรารู้สึกไม่ปลอดภัยว่า จะมีเงินเหลือจนถึงเงินเดือนออกหรือไม่ ก็จะใช้เงินน้อยลง อาจจะใช้ต่ำกว่าวันละ 100 บาทก็เป็นได้ ร่างกายของเราก็เช่นกัน 

ดังนั้น หากเรามีการนับแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวันแล้วอย่าลืมดูด้วยว่า เราเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนขาดสารอาหารไปด้วยหรือไม่ และนั่นก็เท่ากับว่า เรากำลังพาร่างกายเข้าสู่ เซฟโหมด นั่นเอง นอกจากน้ำหนักตัวละลงยากแล้วยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโยโย่เอฟเฟคด้วยนะครับ ดังนั้นโดยส่วนตัวผมจะใช้ตัวช่วยในแต่ละวันที่ทำ IF ก็คือ นอกจากการคำนวณแคลอรี่ในแต่ละวันด้วย ผมอาศัยว่า ในบางมื้อถ้าดูแล้วเสี่ยงว่าจะได้รับสารอาหารไม่ครบไม่พอเพียง ก็จะกินอาหารซองเสริมเข้าไปด้วย เพราะปกติอาหารซองหรือที่เรียกว่า Meal replacement จะทำออกมาให้มีแคลอรี่ไม่สูง แต่มีสารอาหารครบสมบูรณ์ ซึ่งใครอยากได้อยากลองก็ลองไปซื้อกินกันจากลิ้งค์ด้านล่างเอานะครับ

svg1 min read

Leave a reply

me:

จากประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดของอินเตอร์เน็ตเมืองไทย (ตั้งแต่ปี 1999) ผมได้ผ่านอะไรหลายๆอย่าง ผ่านยุคผ่านสมัยต่างๆของ เทคโนโลยี และในปัจจุบันก็ยังสามารถเอาชีวิตรอดอยู่ในธุรกิจนี้ เพียงแต่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ตอนนี้ผมทำงานเกี่ยวกับ Influencers โดยเฉพาะบน YouTube ใครสนใจหรืออยากได้คำแนะนำในการทำเนื้อหาบน YouTube ยินดีพูดคุยกันนะครับ

ป.ล. ผมเลี้ยงง่าย แค่กาแฟถ้วยเดียวก็พอครับ

Categories

Twitter feed is not available at the moment.