Close

IF Intermittent Fasting คืออะไร

ถ้าพูดกันตามตรง สำหรับการทำฟาสติ้ง เป็นอะไรที่ผมได้ยินได้ฟังมาพอสมควร แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะโดยส่วนตัวเข้าใจไปว่า มันคือวิธีการลดน้ำหนักวิธีหนึ่ง และด้วยความที่ไม่ได้มีความรู้ ก็เลยให้ความสำคัญเฉพาะเรื่องจำนวนแคลอรี่เข้าและออก ถ้าอยากลดน้ำหนัก ก็ลดปริมาณ​แคลอรี่ ที่กินเข้าไปในแต่ละวันสิ โดยไม่เคยรู้เลยว่า ผมเนี่ยแล่ะ เป็นคนที่เคยทำ Fasting มาตลอด จนมาช่วงประมาณ 10 ปีหลังๆ ก็เปลี่ยนวิถีชีวิต ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ทำฟาสติ้งเหมือนเมื่อก่อน

ก่อนจะไปว่ากันที่ข้อมูลการทำ IF (Intermittent Fasting) ขออธิบายให้เข้าใจก่อนว่าทำไม ผมถึงบอกว่า เป็นทำ IF มานานแสนนาน ก็คือ แต่ก่อนจะทำงานหน้าคอมตลอดเวลา ตื่นมาก็เปิดคอมแล้วก็ทำงาน เช็คโน่นนี่ ซึ่งตั้งแต่ตื่น จนข้าวมื้อแรก ก็ปาเข้าไป 4 โมงเย็นแล้ว โดยที่ก่อนเป็นมื้อเย็นผมกินแค่กาแฟดริป แค่แก้วเดียวทั้งวัน ก็ไม่ได้ปวดท้องหรือเป็นโรคกระเพาะใดๆ เลย และสมัยนั้น กินข้าวแค่มื้อเดียวเป็นประจำเลย ก็คือ อดมาทั้งวันแล้วก็มากิน แล้วก็กลับไปทำงานหรือไปนั่งเล่นเกมต่อ 

คราวนี้มาว่ากันด้วยการทำ Intermittent Fasting หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า IF ก็คือเราให้ความสำคัญกับฮอร์โมน ที่เรารู้จักกันดี นั่นคือ “อินซูลิน” ซึ่งในร่างกายของเราทุกๆ คนก็จะมีการผลิตฮอร์โมน อินซูลิน ออกมา โดยหน้าที่หลักๆ ก็คือ การนำเอาน้ำตาลในกระแสเลือดของเราไปส่งให้ตามเนื้อเยื่อต่างๆ เพื่อเป็นพลังงานนั่นเอง โดยฮอร์โมน อินซูลิน นั้นผลิตออกมาจากตับอ่อนของเรา โดยมีตัวกระตุ้นต่างๆ จากอาหารที่เรากินเข้าไปนั่นแล่ะ โดยเฉพาะน้ำตาล จะเป็นตัวกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินออกมา เพราะในขณะที่เรากินอาหารเข้าไป ร่างกายก็จะเริ่มดูดซึมสารอาหาร และหากเป็นน้ำตาล โดยเฉพาะน้ำตาลที่ดูดซึมได้ง่าย ทำให้ปริมาณน้ำตาลในกระแสเลือดของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้น ร่างกายก็จะผลิตอินซูลินออกมาเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน และอีกหน้าที่ก็คือ ควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกายไม่ให้สูงเกินไปนั่นเอง แต่ที่แย่หน่อยก็คือ ในทุกๆครั้งที่ฮอร์โมนอินซูลิน นำพาเอาน้ำตาลไปกักเก็บไว้ ต้องมีการเปลี่ยนน้ำตาลเหล่านั้นไปเป็นไตรกลีเซอไรด์เสียก่อนและภายในร่างกายของเรา บริเวณช่องท้องคือส่วนที่ร่างกายสามารถจัดเก็บไตรกลีเซอไรด์ได้มากที่สุด ซึ่งคนที่มักชอบกินของหวาน แป้ง น้ำตาล น้ำผลไม้ ก็จะมีลักษณะลงพุงได้ไม่ยากนั่นเอง 

แต่ก็ต้องไม่เข้าใจผิดว่า อินซูลิน นั่นเป็นผู้ร้ายนะครับ มันแค่ทำหน้าที่ของมัน จนได้ฉายาว่า ฮอร์โมนกักเก็บไขมัน นั่นเอง ซึ่งถ้าโดยปกติ มันก็ทำงานของมันเป็นเวลามื้ออาหารนั่นแล่ะ บางคนจะเคยได้ยินสูตรต่างๆ ทั้งการทำ IF แบบ กิน 3 มื้อ หรือกิน 2 มื้อ, 1 มื้อ หรือแบบอดหลายๆวันเลยก็มี แต่สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญของการทำฟาสติ้งเลยก็คือ ในระหว่างมื้อนั่นแล่ะ เช่นช่วงเวลาสายๆ หลังอาหารเช้าซัก 1-2 ชั่วโมง เราก็อาจจะหาชานม หรือขนมขบเคี้ยวกิน หรือแม้แต่ตอนบ่ายๆ หลังอาหารเที่ยง ที่คลายความอิ่มไปแล้วก็จะหาอะไรมาเติม ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญที่สุดของคอนเซ็ปต์การทำฟาสติ้ง เพราะเรากินจุกกินจิก ตลอดเวลา เท่ากับว่าเราไปกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิต อินซูลิน ออกมาตลอดเวลา และถ้าจำได้ อินซูลิน มันคือ ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่กักเก็บไขมันนั่นเอง ทำให้คนที่ชอบกินจุกกินจิกระหว่างมื้อ จึงมีภาวะอ้วนลงพุงได้ไม่ยาก

ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการทำ IF จึงต้องเข้าใจตรงจุดนี้ก่อน และเลือกกินให้เป็นเวลา โดยให้ร่างกายมีช่วงอดอาหาร โดยเริ่มต้น อาจจะใช้สูตรที่ไม่ยากมากก็คือ 4-4-12 ก็คือจากมื้อเช้าให้อดอาหารอย่างน้อย 4 ชั่วโมง (อย่างน้อยแปลว่า มากกว่านั้นได้นะครับ) และหลังอาหารเที่ยงก็อดอีกอย่างน้อย 4 ชั่วโมง และพอจบมื้อเย็น ก็คือ เราจะไม่กินอะไรจุกจิกเลยยกเว้นน้ำเปล่านะครับ ไปอีก 12 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย หรือถ้าอยากทำแบบกินวันละ 2 มื้อ ก็จะเป็น 8/16 ก็คือ จากมือแรก(อาจจะเช้า หรืออาจจะเป็นมื้อสายก็ได้) ให้ห่างไปอีกมื้อก็คือ 8 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นก็งดอาหารยาวไปจนมื้อเช้าของอีกวันเลยครับ ซึ่งในระหว่างมื้อเราก็จะกินน้ำเปล่าเอานะครับ หรือในช่วงเช้าที่หลายคนต้องกินกาแฟ เพื่อช่วยให้ร่างกายสดชื่นก็กินได้นะครับ แต่แนะนำให้กินกาแฟดำจะดีที่สุดงดเติมน้ำตาลหรือครีมเทียม แต่ถ้าชอบกินเป็นกาแฟใส่นม ก็อาจจะกินพร้อมกับมื้อแรกของวันเลยก็ได้นะครับ เพราะนมคือโปรตีน ที่มีส่วนช่วยเร่งการผลิตอินซูลินออกมาเช่นกัน

ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ในช่วงที่เรางดอาหารนั้น ร่างกายสามารถอยู่ได้โดยการเปลี่ยนไขมันที่สะสมในร่างกายของเรานี่แล่ะ แปลงกลับมาเป็นพลังงานให้เราได้ใช้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ใช้เงื่อนไขนี้มาช่วยในการลดน้ำหนัก ลดหุ่นนั่นเอง และถ้าสามารถทำได้ติดต่อกันอย่างมีวินัยแล้วล่ะก็ 2-3 เดือนก็จะเห็นผลลัพธ์แล้วล่ะครับ 

หลังจากที่ได้ลองศึกษาข้อมูล ก็เลยรู้ว่า จริงๆแล้วการทำ Intermittent Fasting หรือ IF นั้นไม่ได้มีไว้แค่การลดน้ำหนักเท่านั้น จะว่าไปสำหรับผมไม่คิดว่า IF เป็นวิธีลดน้ำหนักด้วยซ้ำ มันคือวิธีการจัดระเบียบการทำงานของฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย ไม่ให้มันทำงานผิดปกตินั่นเอง และถ้าทำแบบนี้ได้เรื่อยๆ ก็จะทำให้มีสุขภาพดี พุงหายไขมันหด ได้ไม่ยาก (เริ่มนึกถึงหุ่นในอดีต) แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้มันเป็นแค่จุดเริ่มต้น เพราะในเลเวลสูงก็ยังมีการทำ Prolonged Fasting หรือการงดอาหารแบบมากกว่า 24 ชั่วโมง ซึ่งบางคนงด 48 ชั่วโมง หรือนานกว่านันระดับ 96 ชั่วโมงก็มี และขั้นตอนเหล่านี้มันมีสิ่งที่เรียกว่า Autophagy หรือแปลว่า เซลในร่างกายกำจัดเซลขยะ ด้วยตัวเอง โดยจะเล่ารายละเอียดให้อ่านกันอีกในอนาคตนะครับ แต่เกริ่นไว้ก่อนว่า นักวิจัยญี่ปุ่นที่คิดค้นเรื่อง Autophagy นั้นได้รับรางวัลโนเบล จากเรื่องนี้เลยด้วยนะครับ 

svg1 min read

Leave a reply

me:

จากประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดของอินเตอร์เน็ตเมืองไทย (ตั้งแต่ปี 1999) ผมได้ผ่านอะไรหลายๆอย่าง ผ่านยุคผ่านสมัยต่างๆของ เทคโนโลยี และในปัจจุบันก็ยังสามารถเอาชีวิตรอดอยู่ในธุรกิจนี้ เพียงแต่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

ตอนนี้ผมทำงานเกี่ยวกับ Influencers โดยเฉพาะบน YouTube ใครสนใจหรืออยากได้คำแนะนำในการทำเนื้อหาบน YouTube ยินดีพูดคุยกันนะครับ

ป.ล. ผมเลี้ยงง่าย แค่กาแฟถ้วยเดียวก็พอครับ

Categories

Twitter feed is not available at the moment.