ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ได้ทำงานอยู่ตรงนี้ (ตอนนี้ผมทำงานบริษัท POPS Thailand) เพราะด้วยความที่เป็น YouTube Partner ทำให้เราได้มีโอกาส และได้มีประสบการณ์ต่างๆมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ YouTube Channel ของ Partner เราโดนแฮก!!
วันนี้เรามาพูดถึงสถานการณ์ว่า หากช่อง YouTube ของเรานั้นโดนแฮก เราจะทำอย่างไรได้บ้าง เริ่มต้นเลย คงต้องดูก่อนว่า ระดับของการเข้าถึงของแฮกเกอร์นั้นเข้าถึงการใช้งานได้ในระดับไหน เพราะเดี๋ยวนี้ในหลายๆ ช่อง อาจจะปรับเปลี่ยนเป็น Brand account ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้เราสามารถเพิ่มจำนวนคนที่จะเข้ามาบริหารจัดการช่องยูทูปของเราได้ด้วย เราจะเรียกว่า Manager ช่อง ซึ่งในปัจจุบันสามารถตั้งค่าได้ทั้งหมด 4 ระดับ คือ
- Primary Owner (เจ้าของหลัก)
- Owner (เจ้าของร่วม)
- Manager (ผู้จัดการช่อง)
- Communications Manager (ผู้จัดการที่ทำหน้าที่ด้านการสื่อสาร)
ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ทุกๆ ช่องที่สามารถเพิ่มผู้จัดการช่องจะให้สิทธิของการเป็น manager เพราะไม่ถึงขั้นที่จะเป็นเจ้าของ และก็หามีความต้องการให้มาช่วยดูแล การเป็น communications manager มันก็ทำอะไรได้น้อยเกินไป
จากหลายๆช่องที่ประสบปัญหานี้มา ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่ Bearhug โดน หรือแม้แต่ล่าสุดของ Bie the Ska นั้น เป็นการโดนเข้าถึงการใช้งานในระดับของ manager ช่อง ซึ่งหมายความว่า ตัวแฮกเกอร์นั้น ยังไม่สามารถควบคุมบัญชีของช่องได้ทั้งหมด และ ไม่สามารถยึดไปเป็นเจ้าของได้เต็มตัว แต่ก็สามารถทำบางสิ่งที่สำคัญได้ เช่น สามารถ เข้าถึงการแก้ไขวีดีโอ แก้ไขเพลย์ลิสต์ หรือแม้แต่การเปลี่ยนชื่อช่อง และสามารถลบเนื้อหาออกจากระบบด้วยเช่นกัน
สำหรับขั้นตอนการกู้คืนช่องสามารถติดต่อได้กับผู้ดูแลที่ดูแลช่องคุณอยู่ในปัจจุบัน อันนี้อาจจะเป็นข้อดีอีกข้อ ของการมี MCN ไว้คอยดูแล เพราะหากโดนแฮก ในบัญชีของเจ้าของหลักแล้ว เราอาจจะสูญเสียช่องนั้นไปเลย แต่เคสนี้ก็เคยมีกับช่องอย่าง หมิง ขั้วโลก ที่ผมเคยช่วยประสานงานให้จนได้ช่องกลับคืนมา อย่างที่น้องเค้าเล่าในคลิปนี้ครับ https://youtu.be/Mhh72Q8zcx4?t=406 แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงแนะนำให้เข้าไปจัดการตามขั้นตอนในหน้านี้ด้วยครับ https://support.google.com/youtube/answer/76187?hl=th
และแบบฟอร์มแรกที่ทุกคนต้องรีบเข้าไปจัดการเลยก็คือ แบบฟอร์มตามล้ิงค์นี้นะครับ https://support.google.com/youtube/contact/report_youtube_hijacking
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ การเปิดใช้งาน 2 Steps Verification ให้กับบัญชีของเราครับ ซึ่งหลายคนอาจจะเปิดเอาไว้แล้ว แต่ในคราวนี้ อยากจะแนะนำให้ลองหา Security Key มาใช้งานกันด้วยครับ หน้าตามันเป็นประมาณนี้ครับ
ซึ่งตัวที่นำมาให้ดูอันนี้เป็นรุ่นที่อัพเกรดกว่าสมัยก่อนที่เคยใช้ เพราะนอกจากเสียบช่อง USB เพื่อสแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีฟังชั่น NFC ที่เอาไว้แตะหลังมือถือ ในกรณีที่เข้าใช้งานผ่านทางมือถือด้วยครับ ลองๆ หาซื้อมาใช้ดูนะครับ
ณ ตอนนี้ คนที่ซื้อมาใช้ส่วนใหญ่ไม่ใช่ YouTuber หรอกครับ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เทรดเหรียญคริปโต กับ exchange แล้วต้องการความปลอดภัยของบัญชี
