เมื่อเหล่าเจ้าของกิจการ และ CEO ต่างๆ ออกมาบอกว่า ครึ่งปีหลังนี้ รวมไปถึงปีต่อๆไป มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าเรายังจะร้องหา work life balance อยู่โดยที่ยังไม่มีอะไรมารองรับล่ะก็ น่าจะไม่ง่ายเอาซะเลย จนกลายเป็นดราม่ามากมาย ที่เห็นแตกต่างกันระหว่างคนแต่ละกลุ่ม
ซึ่งพอย้อนมาดูตัวเอง ก็ถึงวัย ที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่า อีกไม่กี่ปี เราจะไม่ได้เป็นที่ต้องการในตลาดที่เราทำงานอยู่ หรือง่ายๆ ก็คือ แก่เกินไปแล้วสำหรับงาน แถมอาชีพปัจจุบัน เราดันทำเกี่ยวข้องกับ เทคโนโลยี ซะอีก งานนี้ก็เลย โดน 2 เด้งเลย เพราะในตลาดนี้ มีเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าเราเยอะ เหมือนสมัยก่อนที่ขอไม่ไปนั่งเขียนเว็บไซต์ เพราะเจอเด็กๆน้องๆ ที่เพิ่งจบมาเขียน โค้ดแบบโห.. ทำไม มันทำได้ง่ายจังวะ เมื่อก่อน ต้องมานั่งท่องนั่งจำแต่ละโค้ด
นอกจากนั้น ทุกวันนี้เรารู้สึกว่า เทคโนโลยี เอไอ มันเริ่มเข้ามาใกล้ชิดเรามากขึ้นมาก แล้วก็ไม่รู้วันไหน ที่มันจะเข้ามาแทนที่เรา (เราในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวผมเอง แต่หมายถึงแผนกเรา หรือแม้แต่บริษัทเราก็ตาม)
ทั้งหมดทั้งปวง ก็เลยเป็นที่มาที่จะต้องมานั่งคุยกันว่า เราควรมองหารายได้ในรูปแบบ Passive Income จริงๆ จังๆ ซักทีแล้ว พูดจบ ก็มานั่งคุยกันกับแจนว่าเราจะทำอะไรกันดี แจนรู้เรื่องยา เรื่องสุขภาพ แถมน่าจะหาคอนเน็คชั่นเรื่องโรงงานผลิตอาหารเสริม หรือ เครื่องสำอางไม่น่ายาก ส่วนตัวผม ก็พอมีความรู้เรื่องการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ อยู่บ้าง ถ้าเอามารวมกันก็น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีนะ
แต่มาสะดุดตรงที่ เพื่อนฝูงหลายๆ คนที่ประสบความสำเร็จจากการทำแบรนด์ขายออนไลน์ แล้วบังเอิญ ตัวหลังๆ มันไม่ปัง มันเลยพลอยทำให้กำไรที่เคยทำได้มาก่อนหน้ามันหาย และกลายเป็นขาดทุนไปในที่สุด สรุปผลคือ การทำแบรนด์ขายออนไลน์ ส่วนใหญ่แล้วมันมีรอบของมัน มันอาจจะไม่อยู่ถาวร ยกตัวอย่าง น้ำยาที่ดูแลผมให้ดกดำของพิธีกรดัง ก็ปังอยู่ช่วงเวลานึง ก็ต้องออกสินค้าใหม่มาขาย แถม ถ้าเราคนธรรมดา มีโอกาสที่ ตอนทำแบรนด์รอบสองรอบสามจะเจ็บตัว ก็มีสูงซะด้วย
รู้แบบนี้แล้วเลยเสนอแจนไปว่า ทำแอมเวย์ กันมั้ย? โดยเราก็มานั่งดูเหตุผลต่างๆ เลยได้ข้อสรุปดังนี้
สินค้าเป็นสินค้าคุณภาพ จากการที่เราใช้เอง และใช้มาตลอด
สินค้าเป็นสินค้าที่ปลอดภัยทั้งต่อคนใช้และสิ่งแวดล้อม อย่าว่าแต่เราจะพัฒนาแข่งเลย บริษัทใหญ่ๆ ยังทำให้เทียบเท่ายังไม่ง่ายเลย
ถ้าเราเข้าใจจริงๆ เราจะรู้ว่า เราเปรียบเสมือนคู่ค้า กับแอมเวย์ ไม่ได้เป็นพนักงาน ลูกจ้างให้กับแอมเวย์เลย
ผลตอบแทนจากรูปแบบของแผนการตลาดแอมเวย์นั้น ยุติธรรม และ สามารถเติบโตแบบไม่มีขีดจำกัด
แผนการตลาดแอมเวย์ เมื่อทำไปถึงระดับนึงแล้ว สามรถหยุดทำ และยังคงมีรายได้ต่อเนื่องได้
เริ่มต้นทำธุรกิจแอมเวย์เมื่อไหร่ เราก็จะมีพี่เลี้ยง มี mentor ที่จะคอยช่วยเหลือเราให้เติบโตต่อเนื่องได้
คุยกันจบ ก็เลยตัดสินใจเอาวะ ลุยแอมเวย์เนี่ยแล่ะ แล้วผลลัพธ์จะเป็นยังไง เดี๋ยวจะลงเขียนรายละเอียดในแต่ละเดือนต่อไปนะครับ
