Close

ปั่นจักรยาน ไปทำงาน อีกครั้ง

จักรยานกับผม เป็นอะไรที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลยก็ว่าได้ครับ จนถึงวันนี้ ก็ยังคงอยู่กับจักรยานเสมอๆ ถึงแม้ว่า จะไม่ค่อยได้ไปออกทริปแบบจริงๆจังๆ หรือแม้แต่เอาไปปั่นรอบๆสนามบิน ที่สนามปั่นจักรยานเจริญสุข มงคลจิต หรือสกายเลน นั่นเองครับ

 

และแล้วเวลาที่บรรดานักปั่นทั้งหลายต่างรอคอยกันอยู่ก็คือการสิ้นสุดช่วงเวลาหน้าฝน ที่หลายคนอยากออกไปปั่นจักรยาน แต่ติดตรงที่ไม่อยากเปียกฝนเนี่ยสิ ช่วงเวลาหน้าฝนจึงเป็นช่วงเวลาขุนตัวเองให้อ้วน ก่อนที่จะมาปั่นกันเต็มที่ในช่วงหน้าหนาว ที่หนาวกันจนรักแร้เปียกกันเลย และตอนที่เขียนโพสต์นี้ ก็อยู่ช่วงปลายเดือนตุลาคม เตรียมเข้าเดือนพฤศจิกายน ก็เลยเป็นช่วงเวลาที่จะได้ปั่นจักรยานบ่อยขึ้นนั่นเองครับ แต่รอบนี้ ไม่ใช่การเอาจักรยานไปออกทริป หรือ เอาออกไปปั่นตามสนาม หรือสวนใดๆครับ มันคือการเอาออกมาใช้แทนรถยนต์ ใช้เพื่อเดินทาง จากบ้านไปทำงานครับ

อ้างถึงสาเหตุแค่ชอบปั่นจักรยาน คงยังไม่เพียงพอกับการเอาจักรยานมาเป็นพาหนะ เพื่อใช้เดินทางระหว่างบ้าน กับ ที่ทำงาน (ร่มเกล้า ไป สาทร) ซึ่งระยะทางก็ เที่ยวละประมาณ 30 กิโลเมตรกันเลยครับ แต่ด้วยเดิมที ไม่ได้ใช้รถมาตลอดหลายปี การเดินทางส่วนใหญ่ ก็จะใช้บริการของรถไฟฟ้า ทุกๆ สายเลย ทั้ง BTS, MRT หรือแม้แต่ Airport Link พอช่วงหลังๆ ที่ขับรถ ไม่ว่าจะเลือกเส้นทางไหน ก็ติดแบบต้องมีอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือตอนกลับบ้าน ก็ต้องรอดึกๆ ค่อยออก ไม่งั้นก็ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยเหมือนกัน เลยเกิดอาการเบื่อขับรถไปทำงาน เลยกลายเป็นที่มาของการกลับมาปั่นจักรยานไปทำงานอีกครั้งหนึ่ง

กลับมาปั่นรอบนี้ ขอมาแบบไม่ธรรมดาซักหน่อย ก็คือ ขอใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้วยครับ เพราะนอกจากจะต้องปั่นด้วยระยะทางไปกลับ รวมๆแล้วประมาณ 60 กิโลเมตรแล้ว ยังมีอีกปัจจัยก็คือ ผมแก่แล้วครับ 40 กว่าแล้ว ถ้าต้องปั่นยาวๆ ทุกวัน เกรงว่าจะไม่ไหวเอา รอบนี้ก็เลย เอาจักรยานธรรมดาๆ ไปติดตั้ง มอเตอร์ไฟฟ้า ให้กลายเป็น จักรยานไฟฟ้า (eBike) กันเลย แถมจริงๆที่ร้านมีให้เลือกความแรงของมอเตอร์ รวมถึงขนาดแบตเตอรี่ ได้อีกด้วย

ความสนุกบังเกิดขึ้นเมื่อ ได้ปั่นเสือภูเขาบนถนนกรุงเทพฯ เพราะบรรดานั่งปั่น อาจจะแยกประเภทจักรยานเอาไว้ ว่าถ้าเสือภูเขา เอาไว้ปั่นทางวิบาก ส่วนถนน ควรใช้เสือหมอบปั่น ดูแล้วน่าจะเข้าทีกว่า อันนี้ฟังดูก็น่าจะไม่ผิดอะไร แต่ในความคิดของผม แต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ก็คือ ถนนกรุงเทพฯ จัดว่าเป็นทางวิบากอย่างหนึ่งเลยนะครับ ทั้งหลุมทั้งเนิน และฝาท่อนี่ ไม่ธรรมดากันเลยจริงๆ เจอทางที่มีรถบรรทุกวิ่งบ่อยๆ จะเจอผิวถนนบิดเบี้ยวได้อีก บอกเลยว่า ด้วยพื้นผิว ผมว่า เสือภูเขา เนี่ยแล่ะคือ จักรยานที่เหมาะกับ กรุงเทพฯที่สุด และด้วยการที่มันติดมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปด้วยแล้ว แต่ของผมเน้นการใช้งานแบบ Peddle Assistant ที่มันมอเตอร์ออกแรงควบคู่กับแรงปั่นของเรา ก็จะทำความเร็วได้ในระดับ 25-30 km/hr กันเลย ทำให้เส้นทางจากร่มเกล้า ไปสาทรของผม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ (65-75 นาที) แต่ในขากลับใช้เวลาน้อยกว่าอยู่นิดหน่อยครับ เรียกได้ว่า นอกจากจะไม่เปลืองน้ำมันรถแล้ว ยังประหยัดเวลากว่าด้วยครับ

ด้วยระยะทาง และช่วงเวลาที่ต้องอยู่บนท้องถนน จัดได้ว่า ไม่น้อยเหมือนกัน สำหรับรถจักรยาน ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้จักรยาน เพื่อการเดินทางไปกลับ บ้าน-ที่ทำงาน-บ้าน ก็คือ ความปลอดภัยในทุกๆ ด้าน ซึ่งก็จะมี หมวก ถุงมือ ไฟหน้า ไฟ้ท้าย กระจกมองข้าง หรือแม้แต่ แตรดังๆ เอาไว้ให้สัญญาณรถคันหน้า และที่ขาดไม่ได้อีกชิ้นหนึ่งก็คือ หน้ากากอนามัย เอาไว้ลดปริมาณการสูดดมควันพิษนั่นเอง

เหนื่อยครับ ถึงแม้จะมีมอเตอร์ไฟฟ้ามาช่วยก็ตาม ร้อนครับ แดดช่วงกลางวันในบ้านเราสดใสเสมอ แต่สิ่งที่ได้จากการปั่นจักรยาน นอกจากจะได้ความประหยัดทั้งเงินและเวลา แต่อีกสิ่งที่ได้ก็คือความรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในการ ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซพิษในชั่นบรรยากาศของโลกครับ ที่สำคัญ ถ้าทำได้สม่ำเสมอ อาจจะได้หุ่นเพรียวๆ กับมา และไล่พุงย้วยๆ ออกไปด้วยอีกทางครับ

เจอผมที่ไหน อย่าเพิ่งบีบแตรไล่นะครับ

svg1 min read

Leave a reply